Aobcoopy

ออกจะเป็นข่าวที่สร้างความตกใจได้เล็กน้อย (สำหรับผู้ผลิต ultrabook) นะครับ เนื่องด้วย Intel ออกมาประกาศว่าจะมีการปรับค่า TDP (ค่าอัตราการใช้พลังงานของ CPU) ของ CPU ในตระกูล Ivy Bridge สำหรับ ultrabook ที่จะเปิดตัวในปีหน้าขึ้นเล็กน้อย โดยค่า TDP ทั้ง 4 สถานะจะเป็นดังนี้ ค่า TDP สูงสุดยังคงอยู่ที่ 25W เท่าเดิม ค่า TDP ในสถานะการประมวลผลปกติอยู่ที่ 17W เช่นเดิม ค่า TDP ของ CPU ในสถานะที่มีการประมวลผลน้อยจะเพิ่มขึ้นจาก 13W ไปเป็น 14W ค่า TDP ของ CPU เมื่อมีการปรับการทำงานของเครื่องไปเป็น low power mode จะเพิ่มจาก 11W ไปเป็น 12.5W ซึ่งในเรื่องนี้อาจจะยังไม่ส่งผลกระทบกับเราๆผู้ใช้มากนัก เนื่องด้วยตัวเครื่องที่ใช้ CPU นั้นยังไม่ออกวางจำหน่ายเลย แต่ฝั่งที่ต้องเครียดคงเป็นทางผู้ผลิต ultrabook ที่อาจต้องไปดีไซน์ตัวเครื่องกันในส่วนระบายความร้อนกันใหม่เล็กน้อยจึงจะสามารถรองรับการทำงานได้อย่างไร้ปัญหา

ยังจำ Google+ กันได้อยู่หรือเปล่าครับ หลังจากที่มีกระแสที่บูมมากในช่วงแรก แต่ก็ค่อยๆซบเซาลงมาเรื่อยๆ จนบางคนบ่นว่าเข้าไปแล้วเห็นแต่รูปหมากับแมว ล่าสุด Google ได้ออกมาเปิดเผยแล้วว่ายอดบัญชีผู้ใช้งาน Google+ ล่าสุดอยู่ที่ราวๆ 62 ล้านบัญชีด้วยกัน โดยมีผู้ใช้งานสมัครเข้ามาใหม่วันละประมาณ 625,000 บัญชีด้วยกัน อีกทั้งยังมีการทำนายเอาไว้อีกด้วยว่ายอดบัญชีผู้ใช้งานน่าจะถึง 100 ล้านบัญชีในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้านี้แน่ๆ ซึ่งถ้าดูจากกราฟแล้ว ก็ดูจะมีความเป็นไปได้อยู่เหมือนกัน นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์เอาไว้อีกว่า สิ้นปี 2554 ยอดผู้ใช้งาน Google+ จะขึ้นไปแตะหลัก 400 ล้านบัญชีเลยทีเดียว ซึ่งถ้าถึงเป้า ก็ต้องบอกว่าเป้นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งของ Google เลยล่ะ ที่ยอดผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วขนาดนี้

มีกระแสข่าวลือมาจากผู้ผลิต PC ในไต้หวันรายหนึ่งว่าในช่วงวันที่ 8 เมษายนที่จะมาถึงในปีหน้า Intel จะปล่อย CPU ในโค้ดเนมใหม่ที่มีชื่อว่า Ivy Bridge ลงสู่ตลาด โดยมีรายชื่อทั้ง CPU และ chipset ที่จะติดตั้งมาใน notebook และยังมีในกลุ่มของเครื่อง desktop อีกด้วย โดยเราจะไปดูเฉพาะในกลุ่มของ notebook กันครับ CPU ในตระกูล Ivy Bridge สำหรับ notebook ที่จะเปิดตัวตามที่แหล่งข่าวอ้างมานั้น มีด้วยกันทั้งสิ้น 8 รุ่น ดังนี้ (ส่วนของราคาน่าจะเป็นราคาขายปลีก) Core i7-3920QM ค่าตัวอยู่ที่ $1,096 (ราว 34,000 บาท) Core i7-3820QM ค่าตัวที่ $568 (ราว 18,000 บาท) Core i7-3720QM ค่าตัวที่ $378 (ราว 12,000 บาท) ส่วน Core i5-3520M / Core i5-3360M / Core i5-3320M ที่เป็น CPU สำหรับ notebook จะลงสู่ตลาดในภายหลัง นอกจากนี้ยังมี Core i7-3667U และ Core i5-3427U ที่ออกแบบมาสำหรับ ultrabook ด้วย ซึ่งจะตามมาในภายหลังเช่นกัน ส่วนเรื่องของ chipset นั้นก็จะมีดังนี้ Intel HM77 และ Intel UM77 ตั้งราคาที่ $48 (ราว 1,500 บาท) Intel HM76 ราคา $43 (ราวๆ 1,300 บาท) Intel HM75 ราคา $40 (ราวๆ 1,200 บาท) ส่วนรุ่นที่

จากเดิมที่มีข้อมูลของ Acer Iconia Tab A700 ออกมาเป็นเอกสาร XML เกี่ยวกับข้อมูลเบื้องต้น นอกจากนี้ยังมีข้อมูลของ Iconia Tab A200 ออกมาอีกด้วย ตามกำหนดเเล้วเราน่าจะได้เห็น Acer Iconia Tab A700 เเละ Iconia Tab A200 ในงาน CES ที่จะถึงในอีกไม่กี่สัปดาห์นี้ Acer Iconia Tab A700 นั้นมีขนาดหนาเพียง 9.4 มิลลิเมตรเท่านั้น หน้าจอควมละเอียด 1920 x 1200 เเละใช้ตัวประมวลผลเเบบ Quad-Core NVIDIA Tegra 3โดยมีพอร์ท micro HDMI เเละ micro USB มาให้ กล้องด้านหลังความละเอียด 5 ล้านพิกเซลพร้อม LED Flash เเละกล้องหน้าความละเอียด HD เเละมีน้ำหนักเพียง 650 กรัมเท่านั้น เเต่มีเเบตเตอรี่ถึง 9,800 mAh ส่วน A200 นั้นมีขนาดหนา 12.4 มิลลิเมตร หน้าจอขนาด 10.1 นิ้ว ความละเอียด 1280 x 800 มีพอร์ท USB เเบบเต็ม, micro USB เเละ microSD card มาให้ด้วย โดยบริเวณฝาหลังจะเป็นพลาสติกกึ่งยางเเละมีผิวสัมผัสเเบบหยาบด้านหลังให้จับได้ถนัดมากขึ้น สนับสนุนมัลติทัช 10 จุด ตัวประมวลผลข้างในคาดว่ายังเป็น NVIDIA Tegra 2 อยู่ เเบตเตอรี่ขนาด 3260 mAh น้ำหนัก 710 กรัม

วันนี้พึ่งเขียนบ่นๆ เรื่อง ข่าวลือ ไปไม่ทันไร ก็มีข่าวลือเรื่อง  iPad ลดราคาเหลือ 6,000 บาท  (มีเว็บไหนบ้างกดดูกันเอง) เห็นทาง iPhonemod นำลิงค์ของ  Techbreaker  มาเเชร์ ก็เห็นว่าน่าสนใจเลยอยากต่อยอดเรื่องเกี่ยวกับข่าวลือในวงการไอทีซักหน่อยครับ เรื่องข่าวลือนั้นจริงๆ เท่าที่ผมสัมผัสมาจะเป็นของ Apple ร้อยละ 90 เเต่ก็พอเข้าใจว่า Apple เป็นบริษัทที่เล่นกับข่าวลือได้ดี เเต่เนื่องจากเป็นสินค้าที่ใครๆ ก็อยากได้อยู่เเล้ว จึงเหมือนกับว่าเว็บส่วนใหญ่จึงชอบเล่นข่าวของ Apple เนื่องจากคนสนใจมากนั่นเอง โดยเฉพาะเว็บอย่าง 9to5Mac หรือ Macrumors นั่นเรียกว่าเป็นเจ้าพ่อข่าวลือกันเลยทีเดียว เเต่ความเห็นของผม Digitimes เป็นเเหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ในระดับหนึ่งถ้าไม่ใช่ข่าวของ Apple นะ เเต่ก่อนที่จะดูว่าข่าวไหนเชื่อได่หรือไม่ได้ ผมอยากของเเยกระหว่างข่าวลือ “rumor” กับข่าวหลุด “leaked” เสียก่อน ข่าวลือมักจะมีธรรมชาติด้วยคำว่า “จากเเหล่งข้อมูลใกล้ชิด” “เเหล่งข้อมูลที่ไม่ประสงค์จะออกนาม” เป็นส่วนมาก ที่ว่าเป็นข่าวลือเป็นเพราะไม่มีหลักฐานนั่นเอง เเต่โดยทั่วไปเเล้วเเหล่งข่าวที่อ้างจะดูมีความน่าเชื่อถือ

ทาง Intel ได้ยืนยันแล้วว่าในช่วงเดือนเมษายนปีหน้า จะเริ่มมี mainboard, notebook และเครื่อง desktop PC ที่มีพอร์ต Thunderbolt ติดตั้งมาให้แล้ว หลังจากเปิดตัวในฝั่งของ Apple ไปในปีนี้ โดยในช่วงแรกค่าชิปสำหรับควบคุมการทำงานของพอร์ต Thunderbolt จะตกตัวละประมาณ 600 กว่าบาท แต่ก็คาดกันว่าในช่วงไตรมาสที่ 2 น่าจะถูกลง เนื่องด้วยปริมาณการผลิตที่เพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงการกระจายตลาดที่ไกลกว่าที่ฝั่ง Apple ทำได้ และเมื่อถึงเวลานั้น Thunderbolt ก็น่าจะเป็นหนึ่งในมาตรฐานเช่นเดียวกับ USB ได้แล้ว โดยในช่วงแรก เราน่าจะได้เห็นบางบริษัทที่นำ Thunderbolt มาใช้ก่อน ยกตัวอย่างเช่น Sony ส่วน ASUS นั้นน่าจะมาในกลุ่มของ notebook ตัวแรงๆก่อน นอกจากนี้ยังมี Gigabyte โดดมาร่วมวงด้วย แต่ดูแล้วน่าจะมาใน mainboard สำหรับเครื่อง desktop ก่อน

ถ้าใครที่ติดตามเรื่องของชิปประมวลผลในกลุ่มของสมาร์ทโฟนมาบ้าง น่าจะพอทราบว่าตัวชิปประมวลผลนั้นจะเป็นแบบ SoC ซึ่งภายในจะมีทั้งหน่วยประมวลผล, หน่วยประมวลผลกราฟิกรวมไปถึงพวกชิปเซ็ตต่างๆ เอาไว้ในตัวด้วยเลย ทำให้สามารถออกแบบวงจรรวมได้เล็กลงกว่าเดิมมาก ซึ่ง Intel จะเริ่มนำมาใช้ในชิปตระกูล Intel Atom ของตนแล้ว ในชิปชื่อโค้ดเนมใหม่ว่า  Centerton  โดยเราจะได้เห็นชิปเหล่านี้ในกลุ่มผลิตภัณฑ์แหล่งเก็บข้อมูลที่สามารถเชื่อมต่อเครือข่าย (NAS) กันก่อน ซึ่งถ้ามันดี ไม่แน่เราอาจจะได้เห็นในชิป Atom สำหรับโน๊ตบุ๊คก็เป็นได้ โดยตัวชิป Centerton นั้น ภายในจะมีส่วนประกอบ รวมไปถึงคุณสมบัติที่น่าสนใจต่างๆดังนี้ มีชิปประมวลผลแบบ x86-64 จำนวน 2 คอร์ แต่ละคอร์มี L2 Cache จำนวน 512 KB แต่ไม่มีการแชร์แคชระหว่างคอร์ มีชิปควบคุมการทำงานประสานกับหน่วยความจำหลัก (RAM) มีชิปเซ็ต NM10 PCH อยู่ในตัวชิป SoC เลย ทำหน้าที่เป็นทั้ง Northbridge และ Southbridge รองรับแรมแบบ DDR3 single channel (DDR3-1333) ติดตั้งได้มากสุด 8 GB ความเร็วในการประมวลผลสูงสุดที่ 1.60 GHz รองรับ HyperThreading ทำให้มีคอร์ประมวลผลรวมทั้งคอร์จ

งาน Electronica จัดที่เดอะมอลล์บางกะปิ ถึงเเม้จะจัดเป็นงานเล็กๆ โดยจัดที่ฮอลล์ชั้น 1 บริเวณน้ำตก ซึ่งก็มีมือถือหลายเเบรนด์มาขายตามปกติไม่ว่าจะเป็น Acer, LG, HTC, Samsung, BlackBerry เเละในงานมีการลดราคาที่น่าสนใจหลายตัวทีเดียวเลยทีเดียว ตัวเเรกคือ HTC Sensation ที่ราคาปกติอยู่ที่ 17,200 บาทเหลือ 14,900 บาทเท่านั้น เเต่ในงาน Electronica นี้ ที่บูธของ HTC นั้นมีการลดราคาหลายรุ่นทีเดียว ซึ่งมีราคาดังนี้ HTC Incredible S เหลือ 13,900 บาท HTC Wildfire S เหลือ 7,900 บาท HTC Flyer เหลือ 15,900 บาท HTC EVO3D เหลือ 15900 บาท HTC Desire S ราคา 12,900 บาท HTC Rhyme ราคา 15,900 บาท HTC Explorer ราคา 6,900 บาท เงื่อนไขนั้นคือเครื่องมีจำนวนจำกัดสำหรับบูธ HTC นั้นคือถ้าเครื่องหมดเเล้ว เเต่จากการสอบถามยังเหลือเครื่องให้ซื้อได้อยู่นะครับ (คนขายบอกว่า Sensation เหลือ 2 เครื่องส่วน Flyer เหลือ 3 เครื่อง เเต่สำหรับ HTC Sensation นั้นทางบูธ dtac ก็นำ HTC Sensation มาขายในราคาเดียวกัน เเถมไม่จำกัดจำนวนเครื่องด้วย LG LG Optimus One ราคา 5,990 บาท LG Optimus 2X ราคา 1

ใครตามข่าว iPhone มาตั้งแต่แรกๆ คงพอรู้ว่าเหล่า iPhone และ iPad นั้นถูกผลิตจากเมืองจีน โดยมีคู่ค้าเบอร์หนึ่งอย่าง Foxconn เป็นคนรับโปรเจคนี้ไปดูแลมาตั้งแต่รุ่นแรก จนถึงรุ่นล่าสุดนี้ แถมยังลามไปถึง MacBook บางรุ่นด้วย ข่าวจาก China Daily หนังสือพิมพ์ภาษาจีนรายงานว่า Foxconn เตรียมขยายขนาดโรงงานผลิตสมาร์ทโฟนที่ตั้งอยู่แถวศูนย์วิจัยของ Foxconn ในเมืองเจิ้งโจว ด้วยเงินลงทุนสูงถึง 1,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และจะทำให้โรงงานดังกล่าวกลายเป็นโรงงานผลิตสมาร์ทโฟนที่ใหญ่ที่สุดไปเลย ปัจจุบันโรงงานดังกล่าวสามารถผลิต iPhone ได้มากกว่า 200,000 เครื่องต่อวัน และการขยายครั้งนี้จะช่วยให้ยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2012 สำหรับ Foxconn ก่อนหน้านี้เพิ่งไปเปิดโรงงานที่ประเทศบราซิลไปได้ไม่นาน ปัจจุบัน Foxconn มีคนงานกว่า 1.2 ล้านคน และเป็นซัพพลายเออร์ให้กับบริษัทอีกมากมาย ปิดท้ายกันด้วยช่าวลือว่า Foxconn เตรียมทำการผลิต iPad 3 ในเดือนมกราคมที่จะถึงนี้ โดยคาดว่าจะมาพร้อมกับความละเอียดหน้าจอสุดนิ้งระดับ Retina Display นั่นเอง

ไม่กี่วันนี้ก็มีเเอพตัวหนึ่งที่มีผู้ใช้งานเยอะขึ้นมาอย่างน่าสนใจ เเอพนั้นก็คือ Path นั่นเอง โดยลักษณะของตัวมันนั้นเหมือนเเอพ Social Network ทั่วไปอย่าง Facebook เเละ Twitter เเต่ความน่าสนใจของ Path นั้นอยู่ที่การออกเเบบเเอพลิเคชันที่ดูดี สวยงาม เเละยังรวมความสามารถในการโพสสถานะของตัวเองใน Path ไปยัง Facebook, Twitter, Foursquare หรือบล็อกอย่าง Tumblr ทำให้เราไม่ต้องเสียเวลามานั่งอัพเตตัสในหลายๆ ที่ นับว่าสะดวกกับการใช้งานมากทีเดียวสำหรับคนที่เล่น Social Network มาก การใช้งาน Path นั้นเหมือนกับเเอพอย่าง Social Network คือเเชร์เรื่องราวในชีวิตของตนเองให้เพื่อนๆ ในวงได้รับรู้ การเเอดเพื่อนั้นมีลักษณะคล้ายกับ Facebook คือเมื่อกดเพิ่มไปเเล้วต้องให้อีกฝ่ายกดยืนยันในความเป็นเพื่อนด้วยถึงจะสามามองเห็นสถานะซึ่งกันเเละกันได้ ต่างกับ Twitter นี่เราสามารถมีคนตามเราได้โดยไม่ต้องมีการยินยอมจากเราก็ได้ ส่วนหน้าโปรไฟล์นี้มีลัษณะเหมือนกับ Facebook Timeline พึ่งปรับใช้ไปไม่นานนี้ โดยเราสามารถเปลี่ยนหน้า Cover ได้ด้วยการปรับ Setting การหาเพื่อนนั้นทำได้ไม่ยาก โดยสามารถหาจากเพื่อนๆ Facebook หรือ C

ในขณะที่สมัยนี้ อะไรๆ ก็ต่างพากับบุกเข้าโลกดิจิทัล โลกอินเทอร์เน็ตกันไปเสียหมด จนคนยุคใหม่แทบจะลืมความคลาสสิกของยุคเก่าๆ ที่ได้ฟังเพลงอนาล็อก นั่งอ่านหนังสือพิมพ์กันไปหมดแล้ว… แต่คงไม่ใช่กับ Matt Webb แห่งสตูดิโอสัญชาติอังกฤษ BERG ที่เพิ่งเปิดตัวอุปกรณ์ที่หลอมรวมทั้งความเก่า และใหม่ ปลุกปั้นด้วยการออกแบบที่เรียบง่ายออกมาเป็นเจ้า Little Printer เพื่อนตัวจิ๋วที่คอยให้ข้อมูลข่าวสารใหม่ๆ เกมลับสมองสนุกๆ หรือนัดหมายในรูปแบบใกล้เคียงกับใบเสร็จเล็กๆ ยาวๆ ที่พวกเขาเรียกว่าเป็น “Mini Newspaper” นั่นเอง จากภาพคงพอเห็นภาพกว้างๆ ว่าเจ้าเครื่องนี้มีไว้เพื่อพิมพ์ลงบนกระดาษเล็กๆ หน้าตาเหมือนใบเสร็จตามร้านสะดวกซื้อ โดยสั่งการผ่านระบบที่เรียกว่า BERG Cloud ที่จะมีเป็นแอพบนสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการต่างๆ ในปี 2012 นี้ หน้าตาของแอพ น่าจะราวๆ นี้จ้า การทำงานของ BERG Cloud คือจะให้เราเลือกว่าต้องการพิมพ์อะไร เวลาไหน แล้วส่งข้อมูลดังกล่าวไปยัง Little Printer เพื่อพิมพ์ออกมานั่นเอง ทั้งหมดนี้ทำงานผ่านระบบคอมพิวเตอร์กลุ่มเมฆ จึงใช้คำว่า Cloud ต่อท้ายนั่นเอง ในช่วงเปิดตัว Little Printer น่าจะทำอะไ