ไขข้อข้องใจ : Siri ใน iPhone 4S มันมีดีอย่างไร
ใน iPhone 4S นั้นมีฟีเจอร์หนึ่งที่ทำให้หลายๆคนร้องว้าวกันได้ นั่นก็คือ Siri ที่เสมือนเป็นเลขาส่วนตัว สามารถซักถามข้อมูลต่างๆ หรือเรียกใช้งาน (เท่าที่มันจะสามารถทำได้) ทำให้หลายๆคนอยากลองใช้ดูว่าเจ้า Siri มันจะแจ่มขนาดไหน ดังนั้นเราจะมาดูกันว่า Siri มันเป็นอย่างไร และทำอะไรได้บ้าง
ถ้าพูดถึงในวงการ voice recognition ของมือถือ เจ้าหนึงที่ใหญ่พอตัวในอดีตอย่าง Google ที่ถึงแม้จะทำงานได้ดีพอตัว แต่จุดต่างออกไปของ Siri นั้นก็คือการปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้ที่ดูจะคล้ายว่าเราคุยกับคนมากกว่า แถมยังง่ายต่อการใช้งานกว่าอีกด้วย เพราะผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องจำ keyword เรียกใช้งานต่างๆ แต่ตัวระบบสามารถเดาจากข้อมุลที่เราพูดกับมันแล้วแสดงผลออกใสให้ผู้ใช้ได้เข้าใจง่ายกว่าของอีกค่าย ทำให้มันเป็นระบบที่ดูน่าใช้งานมากกว่า
ถ้าใครดูภาพยนตร์ที่มีคนพูดคุยโต้ตอบกับระบบคอมพิวเตอร์ (อย่างเช่น Ironman 2) นั้น ตัวของ Siri ก็มีแนวโน้มจะพัฒนาไปเป็นตามนั้นเช่นกัน ผิดกับระบบอื่นที่ดูจะเป็นระบบตายตัว ความยืดหยุ่นในการใช้งานต่ำกว่า และเราต้องเป็นคนเรียกใช้งานตามคำสั่งที่มันจดจำไว้ แต่ Siri นั้นจะออกแนวเป็นผู้เสนอการให้บริการให้กับผู้ใช้มากกว่า เป็นมิตรมากกว่าอะไรประมาณนั้น
Siri ทำอะไรได้บ้าง
ตัว Siri นั้นสามารถทำงานที่เกี่ยวข้องกับฟังก์ชันของเครื่องได้แทบทุกอย่าง เช่น โทรหาเบอร์ใน contact list, เลือกเล่นเพลงที่ต้องการ, ตั้งเวลาปลุก, ค้นหาข้อมูลในเว็บ รวมไปถึงสามารถถามคำถามทั่วๆไปได้ (แต่คงจะ jailbreak ให้ไม่ได้หรอกนะ) แต่ก็ใช่ว่า Siri จะฉลาดแค่การรับเสียงจากผู้ใช้ เพราะมันยังสามารถอ่านและเขียนข้อความให้ได้ด้วย จะเรียกว่ามันเป็นเลขาส่วนตัวก็คงจะไม่ผิดนัก
อีกส่วนที่แสดงถึงความฉลาดและการทำงานร่วมกันของระบบได้เป็นอย่างดีก็คือ การที่ Siri สามารถจดจำสถานที่และค้นหาสถานที่ที่เราอยู่ได้อย่างอัตโนมัติ อย่างเช่น เราอาจจะสั่งไว้ว่า
“Siri, remind me to call my wife when I leave home after 5:00 PM tomorrow.”
ซึ่งในวันรุ่งขึ้น ระบบจะตรวจเช็คสถานที่ที่อยู่ และเมื่อถึงเวลา 5 โมงเย็น ก็จะโทรหาภรรยาสุดที่รักได้ทันที (คุณผู้ชายจอมแสบก็ระวังไว้ด้วยนะครับ Siri อาจจะโดนสั่งให้เก็บข้อมูลสถานที่ที่คุณไปทั้งหมดไว้ก็ได้นะ อิอิ)
นอกจากนี้มันยังเปรียบเสมือน “Answer-engine” อีก คล้ายๆกับอับดุลถามได้-ตอบได้นั่นเอง ไม่ว่าเราจะถามอะไรไป Siri ก็จะคอยไปเสาะหาคำตอบจากแหล่งข้อมูลที่เหมาะสมมาให้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคงต้องต่อเน็ตตลอดเวลานะครับ
จุดที่น่าสังเกตของ Siri
ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของความแม่นยำในการทำงานที่คงจะการันตี 100% ไม่ได้ ซึ่งก็คงจะไม่แปลกนัก บางทีการให้คำตอบก็อาจจะช้านิดหน่อยก็คงต้องรอกันนิดนึง รวมไปถึงการใช้งานที่อาจจะต้องเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย เพื่อใช้ในการค้นหาข้อมูล และที่สำคัญ (สำหร้บบางชาติ) ก็คือสำเนียงในการใช้งานอาจจะต้องเป๊ะซักนิดนะ
ส่งท้าย
Siri ก็ถือว่าเป็นการก้าวออกมาได้ไกลของระบบเลขาส่วนตัวแบบดิจิตอล ซึ่งในอนาคตเราน่าจะได้เห็นอะไรที่ “ว้าว” กว่านี้แน่ๆ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ต้องถือว่า Siri เป็นระบบที่ฉลาดมากที่สุดระบบหนึ่งในปัจจุบันแล้ว ก็หวังว่า Apple หรือบริษัทอื่นๆจะมีระบบให้เจ๋งกว่านี้ออกมาให้เราใช้กันบ้างนะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น